วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตะลุยอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กับพี่ๆ

ปาย
ในฤดูหนาวที่เยือนมาอีกรอบหนึ่งของเมืองไทย หลายๆคนจัดแจงวางแผนบุกป่าผ่าเขาเพื่อค้นหาความเยือกเย็นที่ปีหนึ่งจะมีสักครั้งที่แน่ๆ เกือบทั้งหมดนั้นเดินทางขึ้นเหนือ จะไปที่ไหนก็ตามแต่ ที่นี่หลายคนบอกว่าไม่ควรพลาด อ.ปาย ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปาย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ “ปาย”ได้ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้
อ้วก + หลับ = แม่ฮ่องสอน

เกาะขาม จ.ชลบุรี

เกาะขาม เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ห่างออกไปจากฝั่งประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือประมาณ 45 นาที และอยู่ทิศตะวันตกของเกาะแสมสารห่างจากท่าเรือแสมสาร 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือประมาณ 15 นาที เกาะขามมีรูปร่างคล้ายตัว H มีพื้นที่ประมาณ 61 ไร่ อยู่ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่ง

          ความสวยงามของท้องทะเลบริเวณเกาะขาม รวมถึงธรรมชาติบนเกาะ ทำให้นักเดินทางต่างแวะเวียนไปท่องเที่ยวเกาะขามอยู่เสมอ ๆ โดยชายหาดของเกาะขามมีสองหาดใหญ่ ๆ คือหาดด้านทิศเหนือและทิศใต้ ชายหาดด้านทิศเหนือเป็นทรายค่อนข้างละเอียด เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและสันทนาการทางน้ำ ด้านทิศใต้เป็นหาดทรายหยาบมีหินกรวดและซากปะการังทับถมเต็มชายหาด

ที่มาของเกาะขาม...

          เมื่อปี 2536 กองทัพเรือได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการเป็นประธานคณะกรรมการ อำนวยการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในทะเล พร้อมทั้งให้ผู้บัญชาการกองเรือป้องกันฝั่ง เป็นประธานคณะอนุกรรมการดำเนินงานโครงการอุทยานใต้ทะเลพื้นที่สัตหีบและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งในเบื้องต้นได้กำหนดพื้นที่เกาะขามเป็นเป้าหมายแรก ในการจัดทำเป็นอุทยานใต้ทะเล เนื่องจากเกาะขามประกอบด้วยระบบนิเวศน์ที่เหมาะสม และลักษณะทางอุทกศาสตร์สมบูรณ์ในระดับที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของปะการัง และเป็นพื้นที่ที่ไม่ห่างไกลจากฝั่งมากนัก มีความสะดวกในการเดินทาง

เกาะขาม

          ลึกลงไปในน้ำของเกาะขามจะพบ แนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์กระจายตัวอยู่รอบ ๆ เกาะ บริเวณที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ของปะการังอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งแนวปะการังในบริเวณนี้จะเป็นปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง ในระดับความลึกของน้ำประมาณ 3 - 6 เมตร จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำท่องเที่ยว ทั้งแบบผิวน้ำและแบบน้ำลึก นอกจากนี้ ยังพบปลาทะเลที่สวยงาม ได้แก่ ปลาผีเสื้อ ปลาสลิดหิน ปลาอมไข่ ปลากะรัง และ ปลารวมฝูง เช่น ปลาหางเหลือง อีกทั้งยังพบสัตว์ทะเลอื่นๆ ได้แก่ หอยมือเสือ หอยมือแมว ดอกไม้ทะเล กับปลาอินเดียแดง กุ้งและปูชนิดต่างๆ ดาวขนนก เม่นทะเล และปลิงทะเลที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวของเกาะขาม

          จุดเด่นของอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม นอกจากอุดมไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นแล้ว ยังเป็นสถานที่แห่งแรกของ ประเทศไทย ที่ได้มีการเคลื่อนย้ายปะการังที่กำลังจะเสื่อมโทรมจากมลภาวะบริเวณเกาะเตาหม้อมาลงไว้ที่เกาะขาม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างแนวปะการังในบริเวณที่เสื่อมโทรมและตายไปให้ดียิ่งขึ้น และปรากฏว่าปะการังส่วนใหญ่ยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้และเจริญเติบโต เพื่อสร้างแนวปะการังที่เสื่อมโทรมให้ฟื้นคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม

          โดยพื้นที่ปะการังรอบเกาะขาม มีพื้นที่ปะการังทั้งสิ้น 83,000 ตารางเมตร โดยแยกเป็นประเภทปะการัง เขากวาง 50,000 ตารางเมตร ปะการังก้อน 30,000 ตารางเมตร ปะการังโต๊ะและอื่น ๆ 3,000 ตารางเมตร จากการสำรวจในเบื้องต้น มีปะการังที่ดีราว 20,000 ตารางเมตร และปะการังเสียหายประมาณ 60,000 ตารางเมตร โดยในส่วนที่เสียหายนี้ได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างปะการังแล้วเป็นพื้นที่ 14,300 ตารางเมตร แต่อย่างไรก็ตาม ปะการังในส่วนที่ดีพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร นั้นได้รับความเสียหายตายไปเป็นบางส่วน ทำให้เหลือปะการังที่ไม่ได้รับผลกระทบและยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มที่ประมาณ 4,000 ตารางเมตร

เกาะขาม

แนะนำการท่องเที่ยวเกาะขาม

          เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภายใน 1 วัน ไปเช้ากลับเย็น (09.00 – 16.00 น.) เนื่องจากไม่อนุญาตให้พักแรมค้างคืนที่เกาะ และจะหยุดให้บริการในวันอังคารและวันศุกร์

          กิจกรรมการท่องเที่ยวประกอบด้วย...

          • การชมปะการังด้วยการดำน้ำแบบผิวน้ำ

          • การชมปะการังด้วยเรือท้องกระจก

          • การเดินชมพืชพรรณไม้ และทัศนียภาพบนเกาะ

          • การพักผ่อนหรือตกปลาบนเกาะ

การเดินทาง

          การเดินทางจากฝั่งไปเกาะขามขึ้นเรือได้ที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (ใกล้กับ อบต.แสมสาร และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน )

          • เรือออกจากฝั่งเที่ยวแรกเวลาประมาณ 09.00 น.

          • เรือรับกลับจากเกาะขามเที่ยวแรก เวลาประมาณ 13.00 น.


 
เกาะขาม

เกาะขาม

ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก
ตั้งอยู่ที่ บ้านทับเบิก ต.วังตาล ห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม. มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ชาวเพชรบูรณ์เรียกว่า “ภูทับเบิก”
ภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา ป่าไม้ ต้นไม้เมืองหนาวและน้ำตก มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเข้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์
 
 



ปัจจุบันภูทับเบิกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 ต.วังตาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงทำให้ภูทับเบิกมีสีสันด้วยวิถีชาวไทยภูเขา ซึ่งประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิง
ก่อนตัดสินใจเดินทาง ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม หากขับรถคนเดียวต้องจอดพักบ่อยๆ ตรวจสภาพรถก่อนเดินทาง แล้วอย่าลืมหยิบกระเป๋าตังค์ไปด้วยนะครับ
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ทุกๆคน

ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย

ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง  ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือน เสือคาบแก้วมาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว

 

 
ดอยผาตั้ง อยู่บนเทือกดอยผาหม่น เป็นจุดชมวิวสองฝั่งโขง ไทย-ลาว และทะเลหมอก บนดอยมีหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะ ชาวจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็น ส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล

 

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงราย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ชื่อนี้มักจะเป็นติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว เดิมชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่า ดอยอ่างกานั้น เพราะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือน อ่างน้ำ มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา หรือ ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุด
 
 



 

 
น้ำตกแม่ยะน้ำสีโคลน